About me

รูปภาพของฉัน
Mother of two,Midwife-IBCLC,craft lover...ตามไปดูได้ที่ www.birthababy.com

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เริ่มแรกอย่างมีพลัง Breastfeeding in 1st hour save one million bab

สัปดาห์นมแม่โลก 2550
ชั่วโมงแรก...ชั่วโมงทองของชีวิต
เริ่มแรกอย่างมีพลัง
ทารกค้นหาเต้านมมารดา แม่และลูกสามารถร่วมกันทำกิจกรรมนี้จนสำเร็จ เมื่อเราศรัทธาในปฎิสัมพันธ์ระหว่างแม่-ลูก ด้วยการให้คำแนะนำและดูแลด้านการเลี้ยงดูทารกอย่างถูกต้อง นี่คือจุดเริ่มต้นของการมีชีวิต และน้ำนมแม่เป็นสายใยชีวิตระหว่างแม่กับลูก

ชั่วโมงแรกสำคัญอย่างไร
เมื่อทารกที่สุขภาพแข็งแรงได้แนบสนิทเนื้อแนบเนื้อกับทรวงอกและหน้าท้องของมารดาทันทีเมื่อแรกคลอด อกอุ่นของแม่จะช่วยกระตุ้นให้ทารก มีความตื่นตัว สามารถคืบคลาน เมื่อได้รับการกระตุ้นจากสัมผัสอันอ่อนโยนของมารดา ได้อิงแอบแนบอุทร และเอื้อมมือไขว่คว้าเต้านมของเธอ13 ทารกเริ่มสัมผัสและนวดเฟ้นเต้านม สัมผัสอันอ่อนโยนจากศีรษะและมือของทารกกระตุ้นการหลั่งสาร ออกซิโตซิน9 ในมารดา น้ำนมจึงเริ่มหลั่งไหลและความรักความผูกพันที่มีต่อลูกก็ยิ่งเพิ่มทวี หลังจากสูดดม อ้าปากงับและเลียหัวนมของแม่แล้ว ทารกก็จะเกาะกุมเต้านมและเริ่มดูดดื่มน้ำนมเพื่อยังชีพ กระบวนการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของลูกมนุษย์
ถึงแม้ว่าได้มีนักประพันธ์หลายคนบรรยายพฤติกรรมปกติของทารกนี้เอาไว้7,13 เราพิ่งเริ่มค้นพบ ความสำคัญของการให้โอกาสเช่นนี้ต่อแม่และลูก นับเป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้ประเมินผลกระทบของเวลาในการให้นมแม่ครั้งแรกกับอัตราการตายของทารก และพบว่าการตายอาจลดน้อยลง หากทารกได้เริ่มดูดนมแม่ในระหว่างชั่วโมงแรกของชีวิต (ดูในกล่องรายงานการวิจัย)

เพิ่มประสิทธิผลของน้ำนมแม่ด้วยการกินนมแม่อย่างเดียวในหกเดือนแรก

คู่มือการให้อาหารทารกและเด็กขององค์การอนามัยโลกและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนานหกเดือน หลังจากนั้นจึงให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมที่เหมาะสมจนเด็กมีอายุครบสองขวบหรือเกินกว่านั้น
การเริ่มให้นมแม่ตามปกติในช่วงนาทีแรกหรือชั่วโมงแรกนั้นเริ่มต้นด้วยการสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ ซึ่งช่วยให้การให้นมแม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด BFHI กำหนดให้มีการสัมผัสระหว่างแม่และทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างบันไดขั้นที่ 4 ในบันได10 ขั้นสู่ความสำเร็จในการให้นมแม่ขององค์กรอนามัยโลกและองค์กรยูนิเซฟ อ่านต่อที่...
http://www.cbfthai.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=5355868&Ntype=8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รายการบล็อกของฉัน