About me

รูปภาพของฉัน
Mother of two,Midwife-IBCLC,craft lover...ตามไปดูได้ที่ www.birthababy.com

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

pray for Japan

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย จัดการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2554 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร  เปิดรับการลงทะเบียนแล้ว
ขอเชิญส่งผลงานวิจัย นวัตกรรม และบริการที่เป็นเลิศด้านนมแม่ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2554 หากได้รับการพิจารณาให้นำเสนอผลงาน นวัตกรรม/Best Practice Oral Presentation จะได้รับการยกเว้นค่าลงทะเบียน (ค่าลงทะเบียนรวมอาหารกลางวันและอาหารว่าง1650บาท)  ท่านสามารถลงทะเบียนได้ที่ http://hp.anamai.moph.go.th/register/register.asp
นำเสนอผลงาน :
ผลการพิจารณาคัดเลือกนำเสนอผลงานวิชาการ นวัตกรรม / Best Practice/Oral Presentation/Poster Presentation

รายละเอียดการตีพิมพ์-นำเสนอผลงาน -ใบตอบรับการนำเสนอผลงาน

ส่งผลงานได้ที่สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย

email : breastfeeding3@yahoo.com

TOP 10 ปัญหานมแม่

TOP 10 ปัญหานมแม่ โดยคุณมีนะ สพสมัย
คุณแม่มือใหม่ทุกคนพยายามจะให้นมแม่กับลูกรักให้นานที่สุด เพราะรุ้ดีว่านมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย แต่อุปสรรคระหว่างทางขณtที่ให้นมลูกก็มีอยู่เหมือนกัน และนั่นอาจจะเป็นที่มาของการหยุดให้ยมแม่ก่อนเวลาอันควร เรามาดูกันว่า ปัญหานมแม่ที่พบเจอกันบ่อยๆ มีเรื่องอะไรบ้างและต้องแก้ไขอย่างไรกัน

1.น้ำนมไม่ไหลและน้ำนมน้อย
นมแม่ไม่ไหล มักเกิดจากการดูดที่ตื้นเกินไปหรือดูดที่หัวนม คุณแม่ลองขยับให้ลูกแนบตัวมากขึ้น พาปากลูกมาหาเต้านมแม่ สำคัญที่ว่าปากอ้ากว้าง คางชิดเต้านมแม่ ท้องแม่แนบท้องลูกนะคะ การอุ้มแบบนี้ยังช่วยแก้ปัญหาหัวนมเจ็บได้ด้วยค่ะ
แม่เครียดเป็นอีกสาเหตุที่มักทำให้กลไกน้ำนมพุ่งหรือน้ำนมไหลหดหายไปโดยปริยาย เพราะฮอร์โมนรักที่ต้องการถูกความเครียดมาขวางทางไว้ ทางที่ดีเวลาลูกนอนควรหาทางพักผ่อนและพยายามกินอาหาร สร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยเสียงเพลง
น้ำนมน้อย แก้ไขได้โดยท่าอุ้มท่าดูดที่ถูกต้อง การกระตุ้นโดยให้ดูดบ่อย ดูดนานขึ้น น้ำนมได้ถ่ายเทออกมามาก ก็จะมีน้ำนมมากเอง ที่สำคัญอย่าคาดหวังว่าจะมีน้ำนมมากมายในช่วงสัปดาห์แรก เพราะทั้งกระเพาะลูกและเต้านมแม่เพิ่งเริ่มงานกันทั้งคู่ ขอเวลาให้เครื่องเดินเต็มที่รับรองหายห่วง แต่ต้องให้กินบ่อยพอในช่วงเดือนแรกขอเป็นสัก 8 ครั้งในหนึ่งวันนะคะ
คุณแม่อาจเสริมแรงด้วยอาหารหวานคาวที่ทำให้น้ำนมพลั่งพรู เช่น น้ำขิง น้ำเต้าหู้ ยำหัวปลี แกงเลียง เม็ดขนุนต้ม มะละกอ สัปปะรด เพื่อบำรุงคุณแม่
2.ลูกกินอิ่มไหมนะ
ถ้าลูกอิ่มก็หยุดดูดหรือหลับเอง ไม่แสดงอาการอยากกินอีก ไม่ยอมเปิดปากก็แสดงว่ากินไม่ไหวแล้ว แต่ถ้ากังวลคุณแม่สังเกตได้จากน้ำหนักตัวลูกเพิ่มขึ้นตามปกติ ถ่ายปัสสาวะวันละ 6 ครั้งขึ้นไป มีอาการสดใส ไม่ซีดเซียวปวกเปียกไม่มีแรง อึลูกสีเหลืออ่อนนุ่ม หรือเละๆ อาจจะถ่ายสักวันละครั้งหรือสองสามวันครั้ง ก็แสดงว่ากินพอแล้ว
3. ของแสลงแม่ให้นมมีด้วยหรือ
ของแสลงคงไม่มี แต่ต้องห้ามของไม่ดีพวกบุหรี่ แอลกอฮอล์ ของหมักดอง ของที่มีสารกันบูด สารเคมีต่างๆ ก็ให้ห่างๆ ไว้ อาหารบางอย่างที่ควรเลี่ยงก็พวกเปบเปอร์มินท์ อาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก (ไม่เกี่ยวกับผักสดผลไม้นะคะ) และอาหารรสจัดชวนท้องร่วง ส่วนคาเฟอีนพวกนี้ถ้าอยากก็ดื่มได้แต่เลี่ยงได้จะดีที่สุด
4. เริ่มนมแม่เมื่อไหร่ดีล่ะ
เริ่มเร็วที่สุดหลังคลอด การให้กินนมแม่ใน 1 ชั่วโมงหลังคลอดช่วยลดปัญหาสุขภาพทั้งแม่ทั้งลูกได้อย่างมหาศาล ทารกแรกเกิดกว่าล้านคนจะไม่เสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้ เนื่องจากลูกได้หัวน้ำนมที่มีสารอาหารครบถ้วนและภูมิคุ้มกันสำหรับทารก และช่วยให้มีน้ำนมมากขึ้นในมื้อต่อๆ ไป
อีกทั้งไออุ่นจากผิวกายแม่จะช่วยให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ตั้งแต่แรกเกิดที่จะกระตุ้นสัญชาตญาณและฮอร์โมนต่างๆ ให้ทำงานได้เป็นอย่างดี สร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูกต่อไป
5. ทำไมสีน้ำนมเปลี่ยน
น้ำนมแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงของสีและลักษณะความข้นใสอยู่บ้างตามวัน-เวลา เช่น ในระยะแรกจะเป็นหัวน้ำนมที่มีสีออกส้มข้นนิดหน่อย มีจำนวนน้อย หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีของน้ำนมมากขึ้นในระยะ 3-5 วันหลังคลอด ปริมาณก็จะมีมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปในสัปดาห์ที่สอง สีน้ำนมก็จะเป็นสีของน้ำนม บางทีจะออกครามปนเล็กน้อย ปริมาณมีมากขึ้นจากเดิมมาก


ขอบคุณข้อมูลจาก Momypedia Blog

รายการบล็อกของฉัน